วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด ภายใต้โครงการ “ชูใจ วัยเก๋า” โดยมีนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวง นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม ณ บริเวณสนามฟุตบอลเคหะชุมชนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กทม. ซึ่งในพื้นที่มีผู้อยู่อาศัยกว่า 10,000 หลังคาเรือน นำสินค้าราคาประหยัดกว่า 1,000 รายการ มาลดสูงสุดถึง 70% กว่า 200 คูหา ระหว่างวันที่ 11-14 ก.พ. นี้ เพื่อต่อยอดโครงการเงินหมื่นเฟสสองของรัฐบาล

นายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลโดยการนำของท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนในทุกมิติ มุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ จึงให้ทุกภาคส่วนผนึกกำลังกันกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศอย่างเร่งด่วน ได้ดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จ่ายเงิน 10,000 บาท ให้ผู้สูงอายุจำนวนกว่า 3,000,000 คน โดยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้กว่า 30,000 ล้านบาท

กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหน่วยงานหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน จึงได้ดำเนินโครงการ “ชูใจ วัยเก๋า” เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล เป็นการต่อยอดจากนโยบายแจกเงินหมื่นเฟสสอง กลายเป็นเงิน 12,000 13,000 14,000 บาท ซึ่งได้ Kick off ไปเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการทั้งในส่วนผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ให้ลดราคาสินค้า ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงวัยทั่วประเทศตลอดระยะเวลา 91 วัน จนถึงวันที่ 31 เมษายน 2568 และจะมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพมหานครและในส่วนภูมิภาคตลอดระยะเวลาโครงการ โดยในเดือนกุมภาพันธ์ ถึง มีนาคม อาทิ ภูเก็ต ลำพูน



“ขอเชิญชวนกลุ่มวัยเก๋า พี่น้องประชาชนที่ฉลาดซื้อ มาเลือกซื้อสินค้าในโครงการนี้ ซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพและราคาประหยัดที่กระทรวงพาณิชย์ได้เลือกสรรมาให้ โดยมีสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพครบถ้วน ทั้งของกินของใช้ และผลไม้ตามฤดูกาล และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนได้ตามเป้าหมาย อยากให้มั่นใจว่าท่านนายกรัฐมนตรีเป็นห่วง ประเทศไทยมีประชากรสูงวัยเยอะ คนวัยเก๋าต้องดูแลรักษาสุขภาพตัวเองให้ดี ในยุคที่มีคนมีอายุเพิ่มแต่คนที่ทำงานสามารถทำงานได้ก็ให้ทำงาน เพราะจะช่วยทำให้ท่านอายุยืนยาวขึ้นและมีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมด้วย” นายพิชัย กล่าว




โดยภายในงาน “ชูใจ วัยเก๋า” ประกอบด้วยโซนสำคัญ ดังนี้
- โซนสินค้าวัยเก๋า อาทิ นม อาหารเสริม อาหารเพื่อสุขภาพ อุปกรณ์การแพทย์
- โซนเช็คฟิตวัยเก๋า อาทิ ตัดแว่นราคาพิเศษ โปรแกรมตรวจสุขภาพราคาพิเศษ จากสมาคมโรงพยาบาลเอกชน
- โซนสินค้าอุปโภคบริโภคส่งตรงจากผู้ผลิต อาทิ อาหารสด อาหารแปรรูป ซอสปรุงรส สินค้าชำระร่างกาย ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ของใช้ประจำวัน เครื่องแต่งกาย เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ช่าง และสินค้าชุมชน
- โซนสินค้าไฮไลท์วัยเก๋า ได้แก่ น้ำมันพืช บรรจุขวด (1 ลิตร) ขวดละ 48 บาท น้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 23 บาท ไข่ไก่เบอร์คละ (เบอร์ 2-3) แผงละ 95 บาท และข้าวหอม (5 กก./ถุง) ถุงละ 120 บาท

